4Life Transfer Factor ได้กลายเป็นอาหารเสริมชนิดแรกที่ได้รับการอนุมัติเพื่อให้ใช้ในโรงพยาบาลของรัสเซีย อนุมัติวันที่ 31 กรกฎาคม 2547 โดยกระทรวงสาธารสุข ประเทศรัสเซีย
การรับรองให้ใช้กับนักกีฬา
ผลิตภัณฑ์ของ 4Life ได้รับการอนุญาต ให้ใช้กับ นักกีฬาทีมชาติ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ปี 2008 จาก สมาพันธ์ต่อต้านการใช้ยาโด้ป แห่งรัสเซีย ซึ่งก่อนที่จะอนุมัติได้ จะต้องมีการนำอาสาสมัคร มาทำการทดสอบในห้องแล็บถึงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น นี่เป็นเครื่องหมายรับประกันความปลอดภัย และ การยอมรับในเวทีระดับโลก
สำหรับในประเทศไทย
(เผยแพร่เชิงวิชาการ)

ผลของ ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า ในการช่วยลดอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างอินเตอร์ลิวคิน-ทู ในคนหลังออกกำลังกายอย่างหนัก
โดย ดร.ดลรวี ลีลารุ่งระยับ นักวิจัยอิสระ และทีมงาน
วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิด ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า(Transfer factor Riovida) ต่อภาวะ ออกซิเดทีฟสเตรท และอินเตอร์ลิวคิน-ทู โดยทำการ ศึกษาในอาสาสมัครเพศชายอายุเฉลี่ย 18.5+1.5 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรง ได้แบ่งระยะศึกษาออก เป็นช่วงควบคุม เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และช่วงที่ได้รับประทาน ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า เป็นจำนวน 60 ซีซี ต่อ1 ครั้ง 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลาติดต่อกัน 14 วัน และทำการเจาะเลือด เป็นจำนวน 3 ครั้งคือ ในช่วงควบคุม 2 ครั้งและหลังจากที่รับประทานทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้าครบ 14 วันแล้ว โดยก่อนการเจาะเลือดทุกครั้ง จะให้อาสาสมัคร วิ่งจนกระทั่งเหนื่อยจนทนไม่ไหวจะนำเลือดมาตรวจวัดตัวแปร ภาวะ ออกซิเดทีฟสเตรสได้แก่ สารที่ถูกทำลายจากไขมันหรือมาลอนไดออลดีไฮ ด์ สารอนุมูลอิสระชนิดไนตริก ออกไซต์ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยรวมและ ปริมาณของอินเตอร์ลิวคิน-ทู
ผลการศึกษาพบว่าการใช้ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้าเป็นระยะเวลา 14 วันอย่างต่อเนื่อง พบว่าสามารถช่วยป้องกันไขมันในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายและ ลดการปล่อยสาร อนุมูลอิสระไนตริกออกไซต์ และสำคัญ ยังพบว่าฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยรวมและปริมาณของอินเตอร์ลิวคิน-ทู มีค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเปรียบเทียบ กับช่วงที่ไม่ได้รับประทานทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า สรุปผลการศึกษา แสดงให้เห็นว่า ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า สามารถช่วยลดภาวะ ออกซิเดทีฟเสตรสและเพิ่มปริมาณของอินเตอร์ลิวคิน-ทู ในร่างกายคนได้
งานวิจัยนี้ได้ผ่านคณะกรรมการจริยธรรมในมนุษย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2552
อนุมูลอิสระ (Free radical)
อนุมูลอิสระ(Free radical) เป็นโมเลกุลหรืออิออนที่มีอิเลคตรอนโดดเดี่ยวอยู่รอบนอกและมีอายุสั้นมาก จัดเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรและมีคุณสมบัติเฉพาะคือ มีความไวสูงในการเกิด ปฏิกิริยากับโมเลกุลอื่นๆ อนุมูลอิสระที่มีความสำคัญทางชีวภาพ ได้แก่ อนุมูลซุปเปอร์ออกไซด์แอนอิออน (O2 -°) อนุมูลไฮดรอกซี (OH°) อนุมูลอัลดอกซี (RO°) และอนุมูลเปอร์ไฮดรอกซี (HO2 °) อนุมูลอิสระเหล่านี้จัดเป็นอนุมูลที่ไวในการเกิดปฏิกิริยาสูงมากและในขณะที่ ไนตริกออกไซด์ (NO) หรืออนุมูลไนตริกออกไซด์ (NO°)
อนุมูลอิสระชนิดต่างๆ ที่มากเกินไป จะทำอันตรายต่อไมโตคอนเดีย เกิดการทำลายโครงสร้างต่างๆ ในร่างกายได้แก่
ไขมัน (Lipid peroxidation) (Yagi 1992) หากเกิดที่อวัยวะที่สำคัญเช่น สมอง ไต หัวใจ ก็จะส่งผลทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อม (Degenerative diseases ) นอกจากนี้ยังไปทำลายโปรตีน (Protein oxidation) จะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ของเอนไซม์ ในระบบทางเดินหายใจ และถ้ามีการทำลาย β-cells ที่ตับอ่อน ก็จะส่งผลทำให้เกิดโรคเบาหวานทั้งชนิดที่หนึ่งและสอง (Diabetes type I&II) นอกจากนี้ยังทำให้ไมโตคอนเดียทำงานผิดปกติหรือไม่ทำงาน ซึ่งส่งผลทำให้เกิดโรคทางระบบประสาทที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ เช่น โรคพากินสัน (Parkinson’s diseases) โรคความจำเสื่อม (Alzheimer’s diseases) โรคของระบบประสาทยนต์ เช่น Multiple sclerosis (MS) และยังทำให้เกิดโรคในระบบอื่นๆ อีก เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ อวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานล้มเหลว เป็นต้น การสร้างสารอนุมูลอิสระในไมโตคอนเดรีย ยังมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือกลายพันธุ์ของยีนส์ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ในระบบหายใจ(Rosario และคณะ, 2006)เช่นโรคหอบหืด(Asthma),โรคปอดอุดกั้นเรื้อรง(Chronic obstructive disease; COPD),โรคมะเร็งปอด (Lung cancer) หรือโรคทางหลอดเลือดและหัวใจ (Sofian และคณะ, 2006) เป็นต้น และยังอาจส่งผลทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเกิดความผิดปกติได้อีก อาทิ โรคทางพันธุกรรม โรคมะเร็ง อัมพาต และโรคอื่นๆ นอกจากอนุมูลอิสระที่มากเกิน ไป มีผลต่ออวัยวะต่างๆในร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย คือทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน (Autoimmune diseases) ซึ่งพบบ่อยได้แก่ Systemic lupus erythematosus (SLE) และRheumatoid arthritis (RA) (Jun และคณะ, 1999) เป็นต้น
อนุมูลอิสระชนิดไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide) (Endo และคณะ, 1994) เป็น สารที่หลั่งออกมาจากการทำงานของเอนไซม์ Nitric oxide synthase (NOS) ที่อยู่ในผนังหลอดเลือดและในกล้ามเนื้อ ถึงแม้นว่าสารไนตริกออกไซด์มีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยควบคุมการขยายตัว ของหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น แต่หากมากเกินไปก็อาจให้เกิดผลเสียเช่นเดียวกับสารอนุมูลอิสระอื่นๆ
สารต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (Total antioxidant capacity)
เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ (Antioxidant) ซึ่งสามารถทำปฏิกิริยากับอนุมูลอิสระโดยตรง เพื่อกำจัดอนุมูลให้หมดไป หรือปฏิกิริยาลูกโซ่ไม่ให้ดำเนินต่อได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีตามธรรมชาติ เช่น
กรดยูริค บิลิรูบิน จะทำหน้าที่ในการกำจัดอนุมูล
ส่วนวิตามินซี วิตามินอี กลูตาไทโอน เบตาแคโรทีน และยูบิควิโนน จะหยุดปฏิกิริยาลูกโซ่ของการเกิดอนุมูล ภายในร่างกายมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ 3 กลุ่ม ด้วยกันได้แก่
1) กลุ่มที่เป็นเอนไซม์ (Enzyme Antioxidant) เอนไซม์ที่อยู่ในพลาสมาในเลือดที่ทำหน้าที่นี้ประกอบด้วย Superoxide Dismutase (SOD), Catalase, Glutathione peroxidase (GSH–Px),Glutathione Reductase เป็นต้น
2) กลุ่มที่เป็นโปรตีน ได้แก่ โปรตีนที่จับโลหะหรือธาตุให้อยู่ในโครงสร้าง เช่น Ceruloplasmin
และโปรตีนที่มีกลุ่มซัลไฟด์เป็นส่วนประกอบ เช่น อัลบูมินในเลือด และ
3) กลุ่มที่เป็นสารโมเลกุลขนาดเล็ก มีทั้งที่ละลายน้ำ
(Water soluble antioxidant) ได้แก่ วิตามินซี น้ำตาล กรดยูริค กลูตาไทโอน และชนิดที่ละลายไขมัน (Lipid soluble antioxidant) ได้แก่ วิตามิน E หรือแคโรทีนอยด์ เป็นต้น (Davies 1995; Gluliani 1997)
กระบวนการติดเชื้อและการอักเสบ กับ IL-2 : Interleukin 2 เป็น ไกลโคโปรตีนที่มีน้ำหนักกโมเลกุลเท่ากับ 15,000 dalton เป็นสารที่มีผลกระตุ้นต่อการทำงานและการเจริญเติบโตของ T-cell ซึ่ง IL-2 นี้ผลิตจาก CD4+ และ CD8+ T cells เมื่อร่างกายถูกกระตุ้นด้วยสิ่งแปลก ปลอม(Antigen) จะทำให้T-Lymphocytes (โดยเฉพาะ CD4+) จะตอบสนอง โดยการสร้าง IL-2 ออกมาซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อโรคและหายจากโรคได้ โดย IL-2 สามารถทำให้ Lymphocytes แบ่งตัวเพิ่มจำนวนและเกิดพัฒนาการเจริญเติบโตจนถึงขั้นสุดท้าย ดังนั้น IL-2 จึงสามารถช่วยระงับกระบวนการติดเชื้อหรืออักเสบได้ในที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นระบบคุ้มกันในร่าง กายแบบจำเพาะเจาะจงต่อสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคนั้นๆ (Zhendong 2007)
การออกกำลังกายอย่างหนัก (Siodin และคณะ, 1990) ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เป็น การออกกำลังกายค่อนข้างหนักและนาน อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นมีมากถึง 20% เกินความสามารถของระบบต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย จึงทำให้ปริมาณอนุมูลอิสระเหลือมากพอที่จะทำลายเซลล์ต่างๆได้ และยังทำปฏิกิริยาลูกโซ่ให้เกิดอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น จากไขมัน Lipid peroxidation และจากโปรตีน (protein oxidation) เพิ่มมากขึ้นไปอีก การออกกำลังกายหนักเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายเกิดกระบวนการอักเสบขึ้นในร่างกายได้ การอักเสบที่เกิด ขึ้นนั้นเป็นผลมาจากเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บ ขณะออกกำลังกาย (Armstrong และคณะ, 1991) เมื่อร่างกายมีอาการผิดปกติระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะกระตุ้นให้ T-cell ผลิตโปรตีน Interleukin 1,2 เพื่อช่วยระงับสารกระตุ้นการอักเสบที่เกิดขึ้นได้
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Riovida Transfer factor4Life เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนประกอบหลายประการ เช่น
น้ำองุ่น (grape juice)มี สารออกฤทธิ์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant function) (Ariga, 2004) โดยเป็นกลุ่มของโพลีฟีนอย (polyphenols) โดยเฉพาะ Proanthocyanidins โดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่าวิตามิน-ซี และ วิตามิน-อี มาก
น้ำทับทิม (Pomegranate juice) ได้มีการศึกษาผลของน้ำทับทิมพบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่สูงกว่าน้ำแอปเบิ้ล (apple juice) โดยมีออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ Punicalagin และ Ellagic acid (EA) จึงทำให้น้ำทับทิมสด จะทำให้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง (Seeram และคณะ, 2005)
น้ำเบอรี่ (Berry juice) (Seeran, 2008) เป็นน้ำผลไม้ชนิดหนึ่งที่คัดได้จากผลไม้เบอรี่ ที่ปลูกในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีหลายพันธ์มาก ได้แก่ blackberry (Rubus spp.), black raspberry (Rubus occidentalis), blueberry (Vacciniumcorymbosum), cranberry, red raspberry (Rubus idaeus) และ strawberry (Fragaria x ananassa) ซึ่งสารออกฤทธิ์
ยังคงเป็นกลุ่ม Polyphenol ได้แก่ Anthocyanins, Phonolic acids, flavonol glycosides และ Flavan-3-ols (Fang และคณะ, 2009).
จากงานวิจัยมากมาย พบว่าที่น่าสนใจคือ งานวิจัยของ Sacheck และคณะ (2003) ได้ทำการศึกษาผลของวิตามิน-อี ต่อภาวะ 3.3 ปี จากการออกกำลังกายแบบ Eccentric exercise เป็นเวลา 12 สัปดาห์±ออกซิเดทีฟสเตรส ในกลุ่มคนปกติ เพศชาย อายุ 26.4 พบว่าสามารถช่วยลดปริมาณ Creatine kinase (CK) แต่ไม่ได้ลดปริมาณ Malondialdehdye และงานวิจัยของSchoen และคณะ (2009)ได้ศึกษาผลของอาหารหมักที่ประกอบด้วยผลไม้ ถั่วและผัก ในคนสุขภาพแข็งแรงเพศชาย จำนวน 20-48 ปี จำนวน 48 ราย โดยให้รับประทานเป็นจำนวน 2 ครั้งต่อวัน เป็นจำนวนติดต่อกัน 4 สัปดาห์ พบว่า สามารถช่วยลดปริมาณ Lipid peroixdation และเพิ่มปริมาณ glutathione ในเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด lymphocyte, monocytes และกระตุ้นการทำงานของ NK-cells ที่กระตุ้นด้วย IL-2 เพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม รวมไปถึงงานวิจัยของ Guo และคณะ (2008) ได้ทำการศึกษาผลของการรับประทาน น้ำทับทิม ในปริมาณ 250 มิลลิลิตรต่อวัน เป็นเวลาติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ในผู้สูงอายุ จำนวน 26 รายพบว่าสามารถช่วยเพิ่มฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (Total antioxidant) และลดปริมาณโปรตีนที่ถูกทำลาย (Protein carbonyl) ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มเปรียบเทียบกับน้ำแอปเบิ้ล
ดังนั้นจากที่ได้กล่าวไปทั้งหมด ทำให้เป็นจุดสนใจอย่างยิ่งในการศึกษา เพื่อพิสูจน์ประสิทธิผลของทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า (Riovida Transfer factor 4Life) ในการทำหน้าที่ในการลดอนุมูลอิสระและต่อการเปลี่ยนแปลงของ IL-2 ในร่างกายคนที่มีภาวะออกซิเดทีฟสเตรสเกิดขึ้นจากการวิ่งอย่างหนักในระยะ สั้น ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการดูแลสุขภาพต่อไป ได้
.................................................................................................................................................
ขั้นตอนการศึกษา
กลุ่มอาสาสมัคร เพศชาย อายุ 18.5+1.5 ปี สุขภาพแข็งแรง
ระยะเวลาศึกษา ระยะควบคุม 1 สัปดาห์ และระยะศึกษา (รับประทาน ริโอวิด้า) 2 สัปดาห์
ผลิตภัณฑ์ RiovidaTM, 4Life Transfer factor®, USA (อย 10-3-10449-1-0004)
ปริมาณ 60 ซีซีต่อครั้ง 3 วันต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 14 วัน
จำนวนครั้ง ประเมิน 3 ครั้ง ก่อนใช้ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า 2 ครั้ง และหลังใช้ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ริโอวิด้า 1 ครั้ง
ก่อนเจาะเลือดทุกครั้ง จะให้วิ่งบนสายพานอย่างหนักจนเหนื่อยล้า
ตามโปรแกรม ACSM, 2006)
ตรวจวัดสาร อนุมูลอิสระชนิดไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide;NOx) (Griess reagent)
ไขมันที่ถูกทำลาย (Malondiladehye หรือ MDA) (TBARs) (Chirico,
1994)
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (Total antioxidant capacity; TAC)
(Re และคณะ 1991)
อินเตอร์ลิวคิน ทู (Interleukin 2; IL-2) (ELISA kit) (R&D systems
Europe,Ltd.UK)
วิเคราะห์ผล Repeated measurement (SPSS)

